ระบบแสงไฟโดยรอบของระบบเสียง Burmester 3D ในรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ เป็นการผสานรวมกันอย่างลงตัวระหว่างคุณภาพเสียงระดับพรีเมียมและแสงสว่างแบบไดนามิก ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจผ่านประสาทสัมผัสหลายด้านภายในรถยนต์หรูของเมอร์เซเดส โดยระบบดังกล่าวรวมความเชี่ยวชาญทางด้านเสียงของ Burmester เข้ากับเทคโนโลยีแสงไฟโดยรอบของเมอร์เซเดส เพื่อให้เสียงและแสงทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนเพื่อยกระดับบรรยากาศภายในห้องโดยสาร จุดเด่นของระบบ Burmester 3D sound system คือการมอบประสบการณ์เสียงอันสมจริงผ่านเครือข่ายลำโพงที่มีได้สูงสุดถึง 31 ตัว รวมถึงลำโพง "sky" ที่ติดตั้งไว้ด้านบนเพื่อสร้างมิติเสียงในแนวตั้ง โดยมีแอมปลิฟายเออร์กำลังสูงพร้อมระบบประมวลผลสัญญาณแบบดิจิทัล (DSP) ที่ปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสาร ส่วนองค์ประกอบของแสงไฟโดยรอบที่มีสีให้เลือกมากกว่า 64 สี ถูกวางไว้ตามแนวแผงประตู รูปทรงคอนโซล ขอบเบาะนั่ง และแม้แต่ช่องลำโพง เพื่อสร้างสนามแสงแบบ 3 มิติที่สะท้อนการกระจายตัวของเสียง นวัตกรรมสำคัญของระบบนี้คือการประสานงานกันระหว่างแสงและเสียง โดยสีและระดับความสว่างของแสงจะเปลี่ยนแปลงตามจังหวะของเสียง เช่น การเปล่งแสงอย่างนุ่มนวลตามโน้ตเบส การเคลื่อนไหวของแสงตามทำนองเสียงในย่านกลาง และการกระพริบเป็นประกายตามเสียงทุ้มสูง ตัวอย่างเช่น เมื่อเล่นเพลงคลาสสิก ระบบจะสร้างแสงโทนอบอุ่นที่เปลี่ยนสีจากทองไปเป็นอำพันอย่างนุ่มนวล ในขณะที่เพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนสีระหว่างโทนน้ำเงินและม่วงอย่างรวดเร็วและมีชีวิตชีวา การควบคุมการทำงานของระบบนี้ทำได้ผ่านอินเทอร์เฟซ MBUX ของรถยนต์ ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้บันทึกการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า (เช่น "Concert Hall," "Club Night") หรือปรับแต่งพารามิเตอร์ต่าง ๆ เช่น ความไวของแสงต่อเสียง หรือชุดสีที่ต้องการ ระบบยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับโหมดการขับขี่ต่าง ๆ ได้อีกด้วย เช่น โหมด "Eco" จะใช้แสงเขียวอ่อนร่วมกับเสียงที่สมดุลและประหยัดพลังงาน ในขณะที่โหมด "Sport" จะใช้แสงแดงเข้มร่วมกับเสียงเบสที่หนักแน่นและเสียงแหลมที่ชัดเจน ความทนทานของระบบที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรฐานความหรูหรา ประกอบด้วยโมดูล LED ที่ทนต่อการสั่นสะเทือนและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงช่องลำโพงที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระจายแสงโดยไม่กระทบต่อความชัดเจนของเสียง การปรับแต่งสำหรับตลาดโลกถูกออกแบบให้สอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรม โดยรุ่นที่จำหน่ายในยุโรปจะเน้นแสงที่เรียบง่ายและสม่ำเสมอเพื่อเข้ากับความหรูหราที่ดูเรียบง่าย ในขณะที่รุ่นสำหรับตะวันออกกลางจะมีโทนสีที่เข้มข้นและอิ่มตัวมากขึ้น และตลาดเอเชียให้ความสำคัญกับการควบคุมที่ใช้งานง่ายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารที่สงบนิ่งของ S Class หรือพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลายของ GLE การผสานรวมนี้จะเปลี่ยนทุกการเดินทางให้กลายเป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจผ่านการประสานกันของแสงและเสียง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความหรูหราที่แท้จริงนั้นต้องสามารถกระตุ้นทั้งการรับรู้ทางการได้ยินและการมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ